ตร.แจ้ง 2ข้อหา ครูหื่นข่มขืนสาวทอมวัย 14 นาน 2ปี ครอบครัวจี้เอาผิดวินัย-คาใจร.ร.ยังให้สอนตามปกติ
จากกรณีนายพร (นามสมมุติ) และ นางแดง (นามสมมุติ) พ่อและแม่ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีลักษณะเป็นทอมบอย ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ว่า ด.ญ.เอ ถูก นายบี (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี ครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ บังคับล่วงละเมิดทางเพศมานานร่วม 2 ปี ซึ่งได้เข้าแจ้งความตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่คดีก็ยังไม่คืบหน้า อีกทั้งครูที่ถูกแจ้งความกล่าวหาก็ยังไปสอนได้ตามปกติ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.พ. พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง ผกก.สภ.นางรอง เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจากผู้ปกครองว่ามีข้าราชการครูบังคับไปล่วงละเมิดทางเพศ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้วางแผนจับกุมข้าราชการครูคนดังกล่าวได้ขณะอยู่กับนักเรียน ชั้นม.3 ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง และควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นแม้ข้าราชการครูจะให้การปฏิเสธ แต่ทางพนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งข้อกล่าวหากับข้าราชการครูดังกล่าวตามพยานหลักฐานที่ปรากฏแล้ว 2 ข้อหา คือ “พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง, พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจารแม้เด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม”
พ.ต.อ.สมภพ กล่าวว่า ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้ทำการสอบปากคำเด็กผู้เสียหายต่อหน้าสหวิชาชีพ และส่งตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตามขั้นตอนแล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำเด็กผู้เสียหาย รวมถึงผู้ปกครองเพิ่มเติมอีก เพื่อให้ได้ข้อมูลหลักฐานที่ครบถ้วน ส่วนจะมีการแจ้งข้อหา “กระทำชำเรา”เพิ่มหรือไม่นั้น ต้องรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าเด็กถูกระทำชำเราหรือไม่ ซึ่งก็ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการอย่างรวดเร็ว
พ.ต.อ.สมภพ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่อนุญาตให้ข้าราชการครูซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาได้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนนั้น เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าครูไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งยืนยันว่าทางตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ขณะที่ผู้ปกครองนักเรียนได้เข้ายื่นหนังสือร้องต่อศึกษาธิการจังหวัด เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดทางวินัยกับข้าราชการครูคนดังกล่าวอย่างเด็ดขาด เพราะการกระทำของครูถือเป็นภัยต่อเด็กนักเรียน ทั้งยังคาใจว่าเจ้าหน้าที่บุกจับกุมตัวและมีหลักฐานการกระทำผิดชัดเจน แต่ทางโรงเรียนยังปล่อยให้ครูไปสอนตามปกติได้อย่างไร ควรจะมีการสั่งพักราชการไว้ก่อน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียหายด้วย